คำถาม M-Commerce .ในอนาคตสามารถทำอะไรได้บ้าง
®ความแพร่หลายของเครื่องลูกข่าย โทรศัพท์เคลื่อนที่หาซื้อได้ง่าย และในปัจจุบันยิ่งมีความแพร่หลายมากขึ้น
®กระบวนการรักษาความปลอดภัย โทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันมี SIM การ์ด
®ความสะดวกในการใช้งาน นับวันการออกแบบผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่ ๆ
การช้อปปิ้งสินค้าผ่านทางอุปกรณ์พกพาอย่างโทรศัพท์มือถือ
ในนปัจจุบันนี้เราต้องยอมรับว่าสื่ออินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในการประกอบธุรกิจและชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายสินค้าหรือบริการ การติดต่อสื่อสารระหว่างกัน การค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยนั้นกระแสความนิยมเกี่ยวกับเรื่องอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้ผู้ประกอบขนาดกลาง (SME) และรายย่อยหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับช่องทางธุรกิจใหม่นี้รวมถึงการทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างมาก
M-Commerce คือ การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม หรือการเงิน โดยผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือการค้าขายตามระบบแนวความคิดของระบบการค้าอิเล็กทรอนิกส์ E-Commerce ที่ใช้อุปกรณ์พกพาไร้สายเป็นเครื่องมือในการสั่งซื้อ และขายสินค้า ต่างๆ ทั้งการสั่งซื้อสินค้าที่เป็นรูปธรรม หรือนามธรรม รวมทั้งการรับ-ส่งอีเมล์ สิ่งที่น่าสนใจ คือ โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ไม่จำกัดทำให้ตลาดการค้าออนไลน์ หรือการทำธุรกรรมเชิงพาณิชย์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่
คำถาม สรุป ข้อดี ข้อเสีย ของ Cloud Computing
ข้อดีของ Cloud Computing
1) ลดต้นทุนค่าดูแลบำรุงรักษาเนื่องจากค่าบริการได้รวมค่าใช้จ่ายตามที่ใช้งาน จริง เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าซ่อมแซม ค่าลิขสิทธิ์ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าอัพเกรด และค่าเช่าคู่สาย เป็นต้น
2) ลดความเสี่ยงการเริ่มต้น หรือการทดลองโครงการ
3) สามารถลดหรือขยายได้ตามความต้องการ
4)ได้เครื่องแม่ข่ายที่มีประสิทธิภาพ มีระบบสำรองข้อมูลที่ดี มีเครือข่ายความเร็วสูง
5) อยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
ข้อเสียของ Cloud Computing
1) จากการที่มีทรัพยากรที่มาจากหลายแห่ง จึงอาจเกิดปัญหาด้านความต่อเนื่องและความรวดเร็ว
2) ยังไม่มีการรับประกันในการทำงานอย่างต่อเนื่องของระบบและความปลอดภัยของข้อมูล
3) แพลทฟอร์มยังไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ลูกค้ามีข้อจำกัดสำหรับตัวเลือกในการพัฒนาหรือติดตั้งระบบ site
4) เนื่อง จากเป็นการใช้ทรัพยากรที่มาจากหลายที่หลายแห่งทำให้อาจมีปัญหาในเรื่องของ ความต่อเนื่องและความเร็วในการเข้าทรัพยากรมากกว่าการใช้บริการHost ที่ Local หรืออยู่ภายในองค์การของเราเอง
RFID
บริษัท คอมพิวเตอร์ เพอริเฟอรัล แอนด์ ซัพพลายส์ จำกัด
บริษัท คอมพิวเตอร์ เพอริเฟอรัล แอนด์ ซัพพลายส์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านงานพิมพ์และงานในระบบ Auto-ID สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปีในการทำงานร่วมกับหน่วยงานขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและเอกชน ให้บริการหลักด้านโซลูชั่นงานพิมพ์ทั้งระบบความเร็วสูงและระบบงานพิมพ์แบบต่อเนื่อง เช่น เครื่องพิมพ์ความเร็วสูงชนิด LINE Printer เครื่องพิมพ์ High Speed LASER Printer พร้อมทั้งบริการออกแบบโซลูชั่นและจัดหาอุปกรณ์ในระบบ Auto-ID ทั้งหมด เช่น เครื่องพิมพ์และเครื่องอ่านข้อมูล Barcode เครื่องบันทึกข้อมูล เครื่องถอดรหัส และเครื่องพิมพ์บัตรที่รองรับการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ในรูปแบบ ของ RFID บัตรอัจฉริยะ (Smart Card) และบัตรแถบแม่เหล็ก
บริษัท คอมพิวเตอร์ เพอริเฟอรัล แอนด์ ซัพพลายส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในช่วงยุคสมัยที่คอมพิวเตอร์มีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จึงได้นำระบบงานพิมพ์สำหรับองค์กรเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยติดต่อกับผู้ผลิตเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการพิมพ์ชั้นนำในต่างประเทศ รวมถึงระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมงานพิมพ์ทั้งหมด
จากประสบการณ์การทำงานร่วมกับลูกค้าในองค์กรขนาดใหญ่มานาน ทำให้บริษัท เข้าใจความต้องการและมองเห็นปัญหาของลูกค้า ปัจจุบัน บริษัทฯ จึงเติบโตและกลายเป็นผู้นำด้านงานพิมพ์ทั้งในรูปของ Impact Line printer, High Speed Laser printer และการบริการ Auto-ID รวมถึง Barcode RFID สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทย
สินค้าและบริการ
1.High Speed Printers บริการทางด้านระบบจัดการการพิมพ์และจัดจำหน่ายเครื่องพิมพ์ความเร็วสูงเพื่อการใช้งานสำหรับองค์กร ทางด้าน Line Printer และ Laser Printer
2.Consumable Products บริการจำหน่ายวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในงานพิมพ์ทุกประเภท
3.Auto-ID Solutions บริการระบบเครื่องพิมพ์ บาร์โค๊ด เครื่องตรวจสอบข้อมูลจากแถบรหัสข้อมูลทั้งชนิดบาร์โค้ด 1 หรือ 2 มิติ และระบบ RFID (Radio Frequency Identification) พร้อมจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน

Radio Frequency Identification (RFID)
เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ระบุข้อมูลที่เป็นเฉพาะตัว ของบุคคล สัตว์ สิ่งของ หรือสินค้าต่างๆ โดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ
เพื่อวัตถุประสงค์สามารถอ่านได้จากระยะทางไกล, สามารถรับ-ส่ง ข้อมูลด้วยความเร็วสูงโดยไม่ขึ้นกับทัศนวิสัย และไม่ต้องสัมผัสกับอุปกรณ์บ่งชี้นั้น ปัจจุบันนำมาใช้ เป็นบัตรเงินสด บัตรประจำตัวพนักงาน บัตรโดยสาร ป้ายสำหรับติดสินค้า บริษัทมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบที่ใช้กับเทคโนโลยี RFID พร้อมทั้งสามารถจัดหาอุปกรณ์ (Hardware) ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการใช้งานประเภทต่างๆได้ เช่น ระบบบัตรสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ที่เป็นกระเป๋าเงินอีเลคโทรนิคส์ หรือ E-Purse ระบบผ่านเข้าออก ระบบชำระเงิน ระบบส่งเสริมการขายต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่หลายแห่งและบริษัทต่างๆ ใช้งานระบบที่พัฒนาโดย TBSP องค์ประกอบของระบบที่ใช้งาน RFID 1. Tag/Transponders ใช้ติดกับวัตถุต่างๆ ที่เราต้องการการบ่งชี้ เช่นบัตร, ป้าย, กุญแจ และอื่นๆ 2. Interrogator/Reader เครื่องอ่าน Tag 3. ระบบการทำงาน ประกอบด้วย Hardware และ Software ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานนั้นๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์,ระบบข้อมูลสินค้า | ||
Bar code
บาร์โค้ด คือ เครื่องหมายแทนข้อมูลที่เครื่องจักรสามารถอ่านได้ โดยเริ่มแรกมีลักษณะรูปแบบเป็นแท่ง หรือเส้นขนานหลายๆ เส้นใน 1 มิติที่มีความหนาต่างกันเรียงต่อกัน ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตจะถูกติดบาร์โค้ดไว้และจะถูกอ่านค่าด้วยเครื่องอ่านบาร์โค้ด ณ จุดชำระเงิน เพื่อคิดเงินสินค้านั้นๆ
QR code
เนื่องจากข้อจำกัดของบาร์โค้ดแบบแท่ง ซึ่งเก็บค่าตัวเลขหรือตัวอักษรได้ค่อนข้างจำกัด จึงมีการพัฒนา บาร์โค้ด 2 มิติ ขึ้นมาเพื่อรองรับกับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น QR code เป็นหนึ่งในบาร์โค้ด 2 มิติที่นิยมใช้งานกันในปัจจุบัน โดยนำมาใช้เก็บข้อมูล URL ที่อยู่เว็บไซต์, ข้อความ, เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลตัวอักษรต่างๆ




